Asylum หรือสถานบำบัดผู้ป่วยทางจิตในอดีต ถือกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงปลายยุคกลาง (ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 14) ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีการรักษาผู้ป่วยทางจิตอย่างจริงจัง เพราะก่อนหน้านั้นในช่วงต้นยุคกลาง (ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา) ความเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจมีบทบาทสำคัญ และผู้ป่วยทางจิตก็ถูกเชื่อว่าเป็นเรื่องของปีศาจหรือพลังลี้ลับผู้ป่วยในยุคนี้จึงไม่ได้รับการรักษาใดๆทางการแพทย์ (ที่น่าตลกคือมันเป็นการถอยหลังเข้าคลองครั้งใหญ่ เพราะในยุคกรีกก่อนหน้านั้นยังมองโรคจิตเวชอย่างเข้าใจกว่านี้) แต่กระนั้นด้วยความรู้และวิทยาการในสมัยนั้นการดูแลผู้ป่วยใน asylum ก็ไม่ต่างจากการจับผู้ป่วยทางจิตออกไปจากสังคมเท่านั้น เพราะไม่มีการรักษาที่ชัดเจน ถ้าผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมากๆก็จับล่ามโซ่ ขังกรงเท่านั้นเอง และยิ่งรุนแรงมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17-18 ซึ่ง asylum กลายเป็นสถานกักกันมากกว่าสถานบำบัด ผู้ดูแล asylum มีอำนาจในการกักกันผู้ป่วยได้นานเท่าไรก็ได้ เพราะมองว่าผู้ป่วยทางจิตเป็นบุคคลอันตราย น่ารังเกียจ และรักษาไม่หาย จนกระทั่งปี 1789 จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Philippe Pinel ได้มีประกาศ “Declaration of right” ให้ผู้ป่วยไม่ต้องถูกกักขังหรือถูกโซ่ตรวน และให้การดูแลอย่างคนปกติ มีกิจกรรมต่างๆให้ทำ ปรับสภาพแวดล้อมของ asylum ให้น่าอยู่ ใช้การพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างเข้าใจ ซึ่งพบว่าวิธีของ Pinel ได้ผลดีในแง่ที่คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้นและอาการบางอย่างก็สงบลง แต่ผู้ป่วยยังต้องอยู่ใน asylum ต่อไปเพราะโรคยังไม่หาย