แลนดอน รอลลิน คาร์เตอร์ (เชน เวสท์) คือนักเรียนชายเสน่ห์แรงวัย 17 ของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มนักเลงประจำโรงเรียน ด้วยนิสัยชอบเล่นผาดโผนของกลุ่มของเขาทำให้นักเรียนชายคนหนึ่งต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการเฉียดตาย ทุกคนรอดพ้นจากคดีนี้ยกเว้นแลนดอนเพียงผู้เดียว อาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนมีความเห็นให้แลนดอนได้รับบทลงโทษโดยการทำความสะอาดห้องวิทยาศาสตร์ทุกเย็น, สอนพิเศษให้เด็กไร้โอกาสในวันเสาร์ และร่วมแสดงละครของชมรมการละคร โดยสามกิจกรรมนี้ไม่มีสิ่งใดที่เขาต้องการแม้แต่เล็กน้อย เพราะในสายตาของเขามีแต่พวกตัวประหลาดเท่านั้นที่ชอบจะทำกิจกรรมเหล่านี้ แต่ทั้งสามอย่างนี้ทำให้เขาได้พบกับเจมี่ อลิซาเบธ ซัลลิแวน (แมนดี้ มัวร์) ลูกสาวของบาทหลวงประจำเมืองที่เป็นคนเก็บตัวและเรียบร้อยซึ่งพกคัมภีร์ไบเบิ้ลติดตัวประจำ จนทำให้ถูกคนอื่นมองว่าเฉิ่ม เชย และเหมือนกับตัวตลกในสายตาของคนอื่น โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนของแลนดอน วันหนึ่ง เพื่อนของเขาไม่ได้มารับแลนดอนไป เขาจึงขอติดรถของเจมี่ำไปด้วย เจมี่กล่าวกับแลนดอนว่าสิ่งที่เธออยากทำมี 42 อย่าง โดยเรียงตามลำดับไปเรื่อย ๆ เช่น การมีรอยสัก ยืนอยู่สองที่ในเวลาเดียวกัน เมื่อแลนดอนถามถึงอันดับแรก เจมี่เลือกที่จะปฏิเสธถึงคำตอบ คืนหนึ่ง แลนดอนที่ขับรถเล่นเห็นเจมี่เดินเข้าไปในสุสานด้วยท่าทีลับ ๆ ล่อ ๆ เขาจึงตามเธอไปด้วยความสงสัยและพบว่าเจมี่รักการดูดาวในนี้มาก เธอสร้างกล้องดูดาวตั้งแต่อายุสิบสอง และจะมาดูที่นี่ประจำ
ในชมรมการละครนั้น แลนดอนได้รับบทนำของเรื่องทั้งที่เขาไม่พอใจแต่จำต้องรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อความไม่ต้องการเสียหน้า แลนดอนจึงไหว้วานขอความช่วยเหลือจากเจมี่ที่มีบทนำร่วมกัน โดยตกลงกันว่าแลนดอนจะไปซ้อมการแสดงที่บ้านของเธอทุกเย็น ส่วนเจมี่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่ตกหลุมรักเธอ แลนดอนจึงยอมรับข้อเสนออย่างง่ายดาย วันหนึ่ง กลุ่มเพื่อนของเขาสงสัยว่าแลนดอนกับเจมี่อาจจะคบกัน แลนดอนรู้สึกเป็นเรื่องหน้าอายจึงหักหน้าเจมี่ต่อหน้ากลุ่มเพื่อนของเขา เย็นวันนั้นแลนดอนจึงรู้สึกผิดและไปที่บ้านเจมี่เพื่อขออภัยและขอซ้อมการแสดงด้วย แต่เจมี่ำไม่ยินยอม แลนดอนจำต้องฝึกซ้อมการแสดงด้วยตนเองทุกวัน และเมื่อถึงวันแสดงจริง แลนดอนก็แสดงบทตัวเองได้ดีจนทุกคนคาดไม่ถึง ส่วนเจมี่ก็ปรากฏกายด้วยใบหน้าที่งดงามและท่าทางอันงามสง่า ต่างจากวันอื่นที่ไม่มีใครสนใจเธอ แลนดอนรู้สึกตะลึงกับความสามารถในการขับร้องเพลงของเจมี่ เมื่อการแสดงจบลงแลนดอนเผลอจูบเจมี่ต่อหน้าสายตาเพื่อน ๆ และผู้ปกครองของเธอ รวมถึงบาทหลวงเรเวอร์เร็นด์ (ปีเตอร์ โคโยท) ที่ไม่ยอมรับในตัวแลนดอน และเบลินด้า (ลอเรน เจอร์แมน) แฟนเก่าของเขาที่ยังมีเยื่อใยอยู่ด้วย
หลังจากวันนั้นแลนดอนจึงได้รู้หัวใจตัวเองว่าคิดอย่างไรกับเธอ เขาไม่สนถึงคำคาดคั้นจากคนอื่นและเพื่อนของเขา แลนดอนยอมละทิ้งสถานภาพนักเรียนป็อปปูล่าร์กลายเป็นเพียงวัยรุ่นชายธรรมดาที่ตกหลุมรักกับหญิงสาวผู้ไม่มีใครอยากคบด้วย เมื่อแลนดอนพยายามจะเล่าถึงความรู้สึกกับเจมี่นั้น เจมี่ก็ปฏิเสธกับเขาด้วยความโมโหโดยบอกว่าเขาผิดสัญญาก่อนจะขับรถออกไป แลนดอนที่ไม่สามารถหนีความรู้สึกของตัวเองได้ก็ซื้อเสื้อกันหนาวไปให้เจมี่ในคืนวันนั้นก่อนจะกลับบ้านไป เรเวอร์เร็นด์ที่อคติกับแลนดอนพยายามบอกกับเจมี่ว่าเขาไม่ต้องการให้เธอคบกับแลนดอนและไม่มีวันเปลี่ยนใจ เจมี่จึงพยายามปกป้องแลนดอนจนเรเวอร์เร็นด์ต้องเหนื่อยใจ
วันหนึ่ง เบลินด้าและกลุ่มเพื่อนของแลนดอนได้นึกสนุกนำภาพใบหน้าของในวันงานแสดงละครมาตัดต่อกับรูปนางแบบในชุดล่อแหลมและแจกจ่ายให้กับคนอื่นไปทั่วโรงเรียน เจมี่รู้สึกอับอายและเสียใจจนไม่กล้าสู้หน้าใคร แลนดอนที่มาพบเห็นจึงพยายามปลอบโยนเธอและยอมตัดสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อนไม่เอาไหนของเขาก่อนจะพาเธอไปส่งที่บ้าน แลนดอนขอให้เจมี่ไปเที่ยวกับเขาในคืนวันเสาร์แต่เธอปฏิเสธ เมื่อเขาถามถึงเหตุผลเจมี่จึงเล่าให้ฟังว่าพ่อของเธอคงไม่อนุญาตแน่นอน แลนดอนจึงตัดสินใจไปขอให้เรเวอร์เร็นด์ยอมรับในตัวเขา แม้จะไม่พอใจนักแต่เรเวอร์เร็นด์ก็ยอมแลนดอน
แลนดอนพาเจมี่ไปทานอาหารที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง เจมี่พยายามชวนแลนดอนเต้นรำแต่เขาปฏิเสธว่าเต้นไม่เป็น แต่ในที่สุดเขาก็ยอมเดินขึ้นไปบนเวทีกับเธอและเต้นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ แม้เขาอาจจะไม่ใช่คู่เต้นที่ดีของเธอแต่เจมี่ก็พอใจและมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเขา แลนดอนถามถึงสิ่งที่เธออยากทำเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้งแต่เจมี่ก็ยังไม่ตอบ หลังจากนั้นแลนดอนก็ช่วยให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงโดยการเขียนรูปผีเสื้อไว้ที่หัวไหล่ข้างหนึ่งของเธอโดยบอกว่ามันเป็นรอยสัก และพาเธอไปที่รัฐเวอร์จิเนีย โดยให้เจมี่ยืนระหว่างเส้นแบ่งเขต เขาบอกกับเธอว่าตอนนี้เธออยู่สองที่ในเวลาเดียวกัน เจมี่รู้สึกดีใจที่แลนดอนยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ ต่อมาแลนดอนก็สารภาพถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเจมี่และขอให้เธอเอ่ยออกมาเช่นกัน เจมี่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากกล่าวว่าอย่ามารักเธอ แลนดอนรู้สึกสงสัยเล็กน้อยแต่ก็เลือกที่จะโอบกอดเจมี่ไว้ด้วยความรัก
คืนต่อมา เจมี่ขออนุญาตกับพ่อของเธอว่าจะไปดูดาวโดยไม่พูดถึงแลนดอน เธอพบกับเขาที่สุสานซึ่งเจมี่ได้สอนแลนดอนดูดาวเป็นครั้งแรก แลนดอนขอให้เจมี่ดูดาวดวงหนึ่งและบอกกับเธอว่ามันคือดาวที่เขาค้นพบและตั้งชื่อให้ว่า ‘เจมี่’ เช่นเดียวกับชื่อเธอโดยมีเอกสารจากสมาคมดาราศาสตร์เป็นประกัน ทำให้เจมี่ที่รักการดูดาวรู้สึกดีใจยิ่งขึ้น เมื่อแลนดอนถามถึงสิ่งที่เธออยากทำที่สุดอีกครั้ง เจมี่ก็เลือกที่จะตอบอย่าง่ายดายว่าสิ่งนั้นก็คือการได้แต่งงานในโบสถ์ที่พ่อกับแม่ของเธอได้แต่งงานกัน
หลังจากนั้น เพื่อนเก่าของแลนดอนหลายคนก็เริ่มมองแลนดอนด้วยสายตาที่แสดงถึงความดูถูกเหยียดหยาม แม้แลนดอนจะรู้ดีว่าคนอื่นคิดกับเขาอย่างไรแต่แลนดอนก็ไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือเจมี่เท่านั้น เจมี่ที่รู้สึกอัดอั้นตันใจมานานก็บอกกับแลนดอนว่าเธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและรู้ตัวเมื่อสองปีที่แล้ว เธอหยุดรับการรักษาเพราะร่างกายของเธอดื้อยา ก่อนที่เจมี่จะวิ่งหนีเขาออกไป แลนดอนตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากพ่อของเขา (เดวิด ลี สมิธ) ที่ได้หย่าร้างกับแม่ (แดริล ฮันนาห์) ซึ่งแลนดอนไม่ยอมรับในตัวของพ่อเลย แต่พ่อของเขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่เจมี่เป็นคืออะไร แลนดอนจึงคิดว่านั่นเป็นคำปฏิเสธและเดินออกไปด้วยความเสียใจ ก่อนจะปรับทุกข์กับอีริค (อัล ธอมป์สัน) เพื่อนชายที่เข้าใจเขามากที่สุด แม้ว่าแลนดอนจะพยายามมองหาเจมี่มากเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะออกมาพบเขา แลนดอนจึงตัดสินใจซื้อดอกไม้ไปวางไว้หน้าบ้านเธอทุกวันและขอให้เรเวอร์เร็นด์เข้าใจ วันหนึ่ง เจมี่เดินออกมาปรับความเข้าใจกับแลนดอนในที่สุด หลังจากนั้นแลนดอนก็พยายามสร้างกล้องดูดาวที่บ้านของเธอโดยใช้อุปกรณ์ที่สามารถนำมาทำได้ ต่อมาไม่กี่วันเจมี่ก็หมดสติและต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาล
แลนดอนเฝ้าไข้เจมี่ตลอดเวลา แม้จะเพลียเหนื่อยแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงอยู่กับเธอเสมอ เมื่อเจมี่ฟื้นเธอก็ขอให้แลนดอนอ่านหนังสือหน้าปกสีเขียวให้ ภายแรกแลนดอนคิดว่าเป็นพระคัมภีร์ไบเบิ้ลแต่เจมี่บอกว่ามันคือหนังสือที่แม่ของเธอจดข้อความคำคมจากคนดังไว้ และเป็นสิ่งเดียวที่แม่ของเธอทิ้งให้หลังจากเสียชีวิต หลังจากนั้นเจมี่จึงยกหนังสือเล่มนี้ให้กับเขา ต่อมาสองสามวัน แลนดอนที่ขับรถมาโรงพยาบาลในตอนเช้าก็ต้องนึกสงสัยเมื่อเห็นพยาบาลเข็นเก้าอี้รถเข็นที่เจมี่นั่งไว้ออกไปจากห้อง เมื่อถามกับเรเวอร์เร็นด์เขาจึงบอกว่าพ่อของแลนดอนได้ออกค่ารักษาการรับการรักษาที่บ้านทั้งหมด ทำให้แลนดอนเข้าใจพ่อของเขาและรีบไปขอโทษกับพ่อ หลังจากที่เจมี่กลับมาบ้านแลนดอนก็เริ่มสร้างกล้องตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงเช้าวันใหม่เพื่อสร้างให้ทันดาวหางซึ่งแสดงถึงสัญลักษณ์ของปาฏิหาริย์ เจมี่รู้สึกตื้นตันใจ หลังจากทั้งสองดูดาวกันเสร็จ แลนดอนได้ขอเธอแต่งงาน เจมี่จึงตอบรับด้วยความยินดี
ทั้งสองแต่งงานกันที่โบสถ์ซึ่งเจมี่ปรารถนา และใช้เวลาในช่วงฤดูร้อนร่วมกัน จนกระทั่งเจมี่ได้จากไปอย่างสงบ สี่ปีต่อมาแลนดอนได้เรียนจบแพทย์และกลับมาเยี่ยมเรเวอร์เร็นด์พร้อมกับตัดสินใจคืนหนังสือของภรรยาเขาให้ แลนดอนขอโทษกับเรเวอร์เร็นด์ที่เจมี่ไม่ได้พบปาฏิหาริย์ เรเวอร์เร็นด์กล่าวว่าเจมี่ได้พบแล้ว นั่นคือแลนดอน
แลนดอนเดินไปที่สะพานริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง ก่อนจะหลับตานึกถึงเจมี่ หลังจากนั้นลมก็พัดมาปะทะกับใบหน้าของเขา แลนดอนสัมผัสถึงลมนั้นก่อนจะลืมตาออกมาพร้อมกับน้ำตา เขากล่าวว่า ‘ความรักของเขากับเจมี่เหมือนดั่งสายลม ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่สามารถสัมผัสได้ หลังจากนั้น แลนดอนก็ยังคงรับรู้ถึงรักแท้ของเขา และไม่ได้หลงรักใครนอกจากเธออีกเลย