เรื่องราวในภาพยนตร์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1899 ที่โรงละครมูแล็งรูฌ ย่านม็องมาร์ ในกรุงปารีส ซึ่งมีจุดเด่นที่อาคารโรงละครเป็นรูปกังหันลม (ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า มูแลงส์)
กวีและนักเขียนหน้าใหม่ชาวอังกฤษชื่อ คริสเตียน (รับบทโดย แมคเกรเกอร์) ได้รับการชักชวนจากตูลูส-โลแตร็ก (รับบทโดย เลกูซิอาโน) ให้เขียนบทละครเพลงเรื่องใหม่ให้กับคณะคาบาเรต์ของแฮโรลด์ ซิดเลอร์ (รับบทโดย บรอดเบนท์) ชื่อเรื่อง “Spectacular Spectacular” เขามีความรักกับ ซาทีน (รับบทโดย คิดแมน) นางเอกระบำแคนแคนและหญิงงามเมืองในคณะของซิดเลอร์ ละครเพลงเรื่องใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากท่านดยุกแห่งมอนร็อธ (รับบทโดย ร็อกซ์เบิร์ก) โดยมีเงื่อนไขว่าซาทีนจะต้องตกเป็นนางบำเรอของท่านดยุกก่อนจะเปิดการแสดงรอบแรก
ละครเพลง Spectacular Spectacular ที่ซ้อนอยู่ในเรื่อง เป็นละครเพลงแบบโบฮีเมีย คือมีเนื้อเรื่องในอุดมคติเกี่ยวกับความจริง ความสวยงาม อิสรภาพ และความรัก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดีย [4] เกี่ยวกับนางบำเรอของมหาราชาอินเดีย ที่ลักลอบมีความรักกับนักเล่นซีตาร์พเนจร เปรียบเทียบกับความรักของซาทีน กับคริสเตียน และดยุก
ก่อนการแสดงรอบแรกจะเริ่มขึ้น ดยุกพบความจริงว่า คริสเตียนกับซาทีนลักลอบมีความสัมพันธ์กันตลอดมา จึงยื่นคำขาดกับซิดเลอร์ ให้กำจัดคริสเตียนให้พ้นทาง มิฉะนั้นจะให้ลูกสมุนสังหารคริสเตียนเสีย ซาทีนจึงบอกกับคริสเตียนว่า เธอเลือกที่จะแต่งงานกับดยุก เช่นเดียวกับในเรื่อง Spectacular Spectacular ที่นางสนมเลือกอภิเษกกับมหาราชา แทนที่จะเป็นนักเล่นซีตาร์ ทั้งนี้เพื่อผลักไสให้เขาเดินออกไปจากชีวิตของเธอ และไม่ถูกสมุนของดยุกสังหาร
ด้วยความคับแค้นใจ คริสเตียนกลับมาขึ้นบนเวทีระหว่างการแสดงรอบแรก ในชุดแต่งกายของนักเล่นซีตาร์ เขาประกาศตัดสัมพันธ์กับซาทีนต่อหน้าผู้ชมทั้งโรงละคร แล้วเดินจากไป แต่เมื่อซาทีนร้องเพลง “Come What May” เพลงที่ทั้งคู่เคยตกลงกันว่าจะใช้แสดงความรักต่อกัน ในตอนท้ายของการแสดง ทั้งคริสเตียนและซาทีนก็รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่าย
การแสดงละครรอบแรกสำเร็จลงด้วยดี ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากผู้ชม แต่ซาทีนก็เสียชีวิตลงหลังการแสดงจบ จากอาการป่วยเป็นวัณโรคเรื้อรัง ในอ้อมกอดของคริสเตียน ก่อนตายเธอให้เขาสัญญาว่า จะเขียนเรื่องราวความรักระหว่างคนทั้งคู่ เกี่ยวกับ “สิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้เรียนรู้ คือการได้รัก และถูกรักตอบ” [5]
หนึ่งปีหลังการเสียชีวิตของซาทีน คริสเตียนได้เริ่มเขียนบทละคร พรรณนาความรักของเขากับซาทีน ชื่อเรื่องว่า “มูแลงรูจ”