โรส เดอ ซิลวา ที่พยายามหาทางรักษาอาการป่วยที่แปลกประหลาดของ ชารอน ผู้เป็นลูกสาว โดยการพาเธอไปยังเมืองไซเลนท์ ฮิลล์ ซึ่งเป็นเมืองที่ ชารอน มักจะละเมอพูดถึงอยู่เสมอในเวลาที่เธอนอนหลับ แต่เมื่อเข้าเขตเมืองไซเลนท์ฮิลล์ รถของโรสก็ประสบอุบติเหตุ เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าชารอนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โรสจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาลูกสาวของเธอให้พบ เธอเดินทางเข้าไปในเมือง(Silent -Hill)โดยพบว่าในเมืองนั้นทุกสิ่งทุกอย่างยังคงสภาพดีอยู่ ทั้งรถ อาคาร และของใช้ทุกๆอย่าง นอกจากนี้ ยังมีฝุ่นกระจายทั่วเมืองคล้ายหิมะ ซึ่งในความเป็นจริงคือคือขี้เถ้าที่ตกลงมาจากการไหม้ของถ่านหินที่อยู่ใต้เมืองที่ยังไหม้อยู่นั่นเอง
โรสเดินไปทั่วเมืองเธอมองเห็นชารอน ลูกสาวของเธอวิ่งไป เธอจึงวิ่งตาม แต่แล้วก็มีเสียงประหลาดคล้ายสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ท้องฟ้าเริ่มมึดครึ้มจนมองอะไรไม่เห็น โรสจึงจุดไฟแช็คที่เธอพกมาด้วย เธอตะโกนหาชารอน แต่สิ่งที่เธอพบก็คือคนในชุดคล้ายชุดต้านสารพิษถูกขึงเชือกไว้กับรั้ว จากนั้นตัวประหลาดออกมาไล่ล่าตัวเธอ โรสวิ่งหนีสุดชีวิตแต่พวกตัวประหลาดเหล่านั้นก็จับตัวเธอลากไปแต่จู่ๆสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็หายไป ท้องฟ้าเริ่มสว่างอีกครั้ง เธอจึงแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอพยายามหาทางกลับไปที่รถแต่เธอกลับพบกับดาเลียที่มีลักษณะคล้ายวิกลจริต ดาเลียได้ตามหาลูกสาวเช่นกัน โรสเอารูปชารอนให้ดาเลียร์ดูว่าคือลูกสาวที่เธอตามหาแต่ดาเลียกลับบอกว่านี่แหละคือลูกสาวของเธอ แม้จะตกใจและสับสน แต่โรสก็ยังคงมีความตั้งใจที่จะออกตามหาลูกสาวโดยมีตำรวจหญิง เป็นเพื่อนร่วมทาง จากเบาะแสเดียวที่โรสมีคือ สัญลักษณ์บนหลังคาโบสถ์ที่ชารอนได้วาดเอาไว้ยามที่เธอไม่รู้สึกตัว โรสได้เดินทางไปตามจุดต่าง ๆ ที่มีสัญลักษณ์แบบเดียวกับที่ลูกสาวเธอได้วาดไว้ จากการเริ่มต้นไปตามหาที่โรงเรียน และที่สำคัญคือการที่โรสได้เดินทางไปพบห้อง 111 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในไซเลนท์ฮิล ที่เป็นที่บูชายัญ อะเลสซา (ลูกสาวของดาเลียที่มีหน้าตาเหมือนชารอน) จากนั้นโรสได้พบกับชาวเมืองไซเลนต์ฮิลที่เป็นคนในกลุ่มลัทธิ และตามเธอไปจนพบกับโบสถ์ที่ชารอนได้วาดไว้